หน้ากากอนามัยกลายเป็นส่วนนึ่งที่เราจะต้องพกทุกครั้งก่อนออกจากบ้านกันเสียแล้ว นอกจากเพื่อป้องกันไวรัสแล้วเรายังต้องป้องกันเรื่อง ฝุ่น PM2.5
เจ้าฝุ่นขนาดเล็กนี้ มีขนาดเล็กมากจริงๆ เล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือเล็กกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผม จากการศึกษาพบว่า ฝุ่นPM25 ที่ลอยในอากาศอาจนำพาฝุ่นปรอท แคทเมี่ยม ตะกั่ว สารหนักติดมาด้วย เมื่อเราหายใจเข้าไปปกติกเราจะมีระบบป้องกันในโพงจมูกเรา ไม่ว่าจะเป็นขนจมูก พบว่าระบบป้องกันของเราไม่สามารถดักจับ ฝุ่น PM2.5 ได้ จึงทำให้ฝุ่นจิ๋วนี้เข้าไปในปอดได้ นอกจากเข้าไปในปอดแล้วขนาดฝุ่นที่เล็กมากจริงๆนี้ยังซึมผ่านผนังของปอดเข้าสู่กระแสเลือดได้อีกด้วย จากการที่ฝุ่นขนาดเล็กนี้สามารถซึมผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้ จึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย บางคนอาจคิดว่าไม่มีอาการใดๆ จากการศึกษาพบว่าในช่วงแรกของการรับฝุ่น PM2.5 เข้าสู่ร่างกายส่วนใหญ่มีอาการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่เมื่อร่างกายได้รับฝุ่น PM2.5 เป็นระยะเวลานานๆ หรือสะสมในร่างกายมากๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภายในภายหลัง อาการที่สังเกตได้จากการได้รับฝุ่น PM2.5 มีดังนี้ ลองสังเกตอาการกันซิคะ เราเข้าข่ายหรือไม่
ผลกระทบกับระบบทางเดินหายใจ
- เกิดอาการไอ จาม หรือภูมิแพ้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง และเป็นภูมิแพ้ฝุ่นอยู่แล้วจะยิ่งถูกกระตุ้นให้มีอาการไอ จาม มากขึ้น
- หากได้รับฝุ่นเป็นระยะเวลานาน เข้าสู่ปอด จะเกิดการไอ จาม ต่อเนื่องอาจส่งผลให้เกิดโรคทางเดินหายใจเรื้องรัง โรคหลอดเลือดและหัวใจเรื้อรัง รวมถึงมีความเสี่ยงที่จะลุกลามเป็นโรคปอดเรื้องรัว รวมถึงมะเร็งปอด
นอกจากจะกระโดยตรงต่อระบบทางเดินหายใจแล้ว ฝุ่น pM2.5 จากมีผลกระทบต่อผิวหนังได้ด้วย อาการที่พบ
- มีผื่นคันขึ้นตามลำตัว ในบางรายแพ้ฝุ่นมากๆ จะมีอาการปวดแสบ ปวดร้อน ระคายเคือง
- อาการที่พบเห็นในบางราย จะมีอาการเป็นลมพิษ ที่ใบหน้า ข้อพับ ขาหนีบ
- หรือในบางคนจะมีอาการเคืองตา และตาแดง
เจ้าฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5 เกิดขึ้นทุกที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ ดังนั้นก่อนออกจากบ้าน หรือทำกิจกรรมนอกบ้าน เราจะต้องพกหน้ากากอนามัยขนาด N95 ซึ่งราคาค่อนข้างจะสูงและใส่แล้วจะรู้สึกหายใจลำบาก อึดอัด อาจปรับไปใช้หน้ากากอนามัยที่มีแผ่นกรอง 3 ชั้น หรือใส่หน้ากากอนามัยธรรมดาแต่สวม 2 ชั้น ก็สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้เช่นเดียวกัน
นอกจากการป้องกันการสูดหายใจเอาฝุ่น PM2.5 เข้าสู่ปอดแล้ว การส่งเสริมและบำรุงปอดให้มีสุขภาพที่ดีนั้นก็เป็นอีกทางหนึ่งในการในการรักษาสุขภาพของเราให้ห่างโรคที่มีสาเหตุมาจากเจ้าฝุ่นขนาดจิ๋วก่อนที่จะมีอาการที่รุนแรงต่อร่างกาย ในบทความนี้ได้รวมรวม 5 สมุนไพรที่มีสรรพคุณดูแลปอดเพื่อรับมือกับฝุ่น PM2.5 ก่อนที่อันตรายจะรุกรามไปมากจากเดิม โดยเฉพาะกลุ่มเที่มีความสี่ยง เรามาทำความรู้จักสมุนไพรเหล่านั้นกันเลยค่ะ
-
หญ้าดอกขาว
หญ้าดอกขาวมีงานวิจัยที่พบว่ามี สารสำคัญที่สกัดได้จากหญ้าดอกขาวมีฤทธิ์ลดการอักเสบในหนูที่ได้รับนิโคตินเป็นเวลายาวนานกว่า 6 เดือน และยังพบว่าสารสกัดหญ้าดอกขาวช่วยฟื้นฟูสภาพของปอดให้กลับมาเป็นปกติได้ จากสรรพคุณในการฟื้นฟูปอดยังมีงานวิจัยที่ศึกษาต่อยอดและพบว่า หากใช้หญ้าดอกขาวติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือน จะช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ลงได้ถึง 60% และหากออกกำลังกายร่วมด้วยก็จะช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ลงได้ 62% หากเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงฝุ่น PM2.5 ได้ เราก็มาดูแลฟื้นฟูปอดด้วยการรับประทานหญ้าดอกขาวกันค่ะ
การรับประทาน หญ้าดอกขาวนั้นนิยมใช้ดอกแห้ง ชงกับน้ำร้อนดื่มเหมือนชา ครั้งละ 2 กรัม แช่ทิ้งไว้ในน้ำร้อน 5-10 นาที ดื่มขณะที่อุ่นๆหลังอาหาร หรือทานร่วมกับขนมอบกรอบก็เป็นทางเลือกนะคะ ดื่มบ่อยๆได้วันละ 3-4 ครั้ง นาน 7-14 วัน
ปัจจุบันหญ้าดอกขาวได้ถูกบรรจุให้อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ มีตามสถานพยาบาล ร้านขายยาในรูปแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็นชาชงพร้อมดื่ม หรือแคปซูลเพื่อสะดวกในการรับประทาน หรือเก็บต้นสดที่ขึ้นมาตากแห้งชงดื่มได้ การรับประทานหญ้าดอกขาวอาจมีอาการข้างเคียงที่พบได้ เช่น อาการคอแห้ง ปากแห้ง เบื่ออาหาร ลิ้นชา เนื่องจากในหญ้าดอกขาวมีโพแทสเซียสูง การรับประทานควรระวังสำหรับผู้ที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจ โรคไต และหญิงตั้งครรภ์เนื่อจากจะทำให้ระบบอิเลคโตร
2.ขมิ้นชัน
ขมิ้นชันเป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่แนะนำในสภาวะที่อากาศมีฝุ่น PM2.5 และเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงเจ้าฝุ่นเหล่านี้ได้ เนื่องจากในขมิ้นชันมีสารสำคัญสีเหลือง ที่ชื่อสารเคอร์คูมิน Curcumin ที่มีความโดดเด่นเรื่องการลดการอักเสบ ต้านการอักเสบ และสารต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นเมื่อร่างกายของเราได้มีการสูดหายใจเอาฝุ่น PM 2.5 เข้าสู่ร่างกาย และเข้าไปถึงปอด จะช่วยฟื้นฟูปอดโดยลดการอักเสบของปอด และฟื้นฟูสภาพปอดจากจากยับยั้งสารอนุมูอิสระที่เกิดจากการมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในปอด นอกจากนี้ขมิ้นชั้นยังเป็นสมุนไพรที่สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ทำให้ร่างกายเราแข็งแรงไม่ป่วยง่ายจากการมีมีฝุ่นเข้าสู่ร่างกาย
การรับประทานขมิ้นชัน สามารถนำมาเป็นส่วนประกอบในอาหาร เช่น แกงกะหรี่ หรือเครื่องดื่มมีในท้องตลาด หากรับประทานในรูปอาหารเสริมเพื่อให้มีสรรพคุณเรื่องลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกัน และบำรุงปอด แนะนำให้รับประทานขนาด 2 แคปซูล หลังอาหาร วันละ 2-3 ครั้ง
3.รางจืด
เป็นสมุนไพรที่มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ราชายาแก้พิษ เนื่องจากมีสรรพคุณที่โดดเด่นในเรื่องการล้างพิษ แก้พิษ ลดอาการแพ้ และต้านอนุมูลอิสระ มีการศึกษาวิจัยทางเภสัชวิทยาที่รับรองว่ารางจืดสามารถลดพิษของสารกำจัดศัตรูพืชกลุ่มคาร์บอเนต เช่นเมโทรมิล โดยทำให้ระดับเอนโซม์โคลีนแอสเทอรสเพิ่มขึ้น หรือลดการยับยั้งเอนไซม์โคลีนเอสเทอเรส ซึ่งเอมไซม์ชนิดนี้ทำหน้าที่ทำลายโคลีนที่เป็นสารสื่อประสาทที่ทำให้เกิดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ จากการที่ฝุ่น PM2.5 ขนาดจิ๋วนี้นอกจากจะมีขนาดเล็กล่องลอยในอากาศยังเป็นพาหะของสารหนัก สารตะกั่วมาด้วย หากปอดได้รับฝุ่น PM2.5 เป็นระยะเวลานานคงไม่ดีแน่ๆ เพราะจะส่งผสมกระทบต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็นระบบสมอง ความจำ การเรียนรู้ ดังนั้นการรับประทานรางจืดจึงช่วยล้างพิษ กำจัดพิษตะกั่ว และลดสารอนุมูลอิสระ หรือสารพิษที่เกาะมากับฝุ่นจิ๋วนี้
การรับประทานรางจืดในภูมิปัญญาชาวบ้าน ใช้ใบรางจีดแห้ง 300 กรัม ผสมกับน้ำ 1 ลิตร ต้มดื่มอุ่นครั้งละ 1 แก้ว จะช่วยกำจัดพิษได้ หรือทำในรูปแบบชาสมุนไพร ดื่มวันละแก้วเพื่อฟื้นฟูปอด กำจัดพิษในร่างกาย
4.มะขามป้อม
สมุนไพรที่หาทานได้ง่าย สามารถนำมารับประทานได้ทั้งรูปแบบสด หรือแบบผลแห้ง โดยมีสรรพคุณบำรุงปอด เพราะช่วยแก้หวัด แก้ไอ ละลายเสมหะ บำรุงเสียง บรรเทาอาการหอบหืด โรคหลอดลมอักเสบ มะขามป้อมมีวิตามินซีที่สูง และยังมีสารกลุ่มแทนนินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย การรับประทานมะขามป้อมจะช่วยบำรุงปอด และลดผลกระทบจากการสูดฝุ่น PM2.5 ปัจจุบันมีการนำมะขามป้อมมาแปรรูปให้อยู่ในรูปที่สะดวกในการรับประทาน และหาได้ง่าย เช่น รูปแบบยาอม ยาแก้ไอ ชาชง
5.ฟ้าทะลายโจร
ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้สำหรับสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านการอักเสบโดยเฉพาะการอักเสบในระบบทางเดินหายใจ มีงานวิจัยรับรองว่าฟ้าทะลายโจรช่วยป้องกัน และรักษาอาการหวัด ไซนัสอักเสบชนิดไม่รุนแรง หลอดลมอักเสบ คออักเสบ ที่เป็นอาการหลังจากการได้รับฝุ่น PM2.5 เข้าสู่ปอด
การรับประทานฟ้าทะลายโจรสำหรับบำรุงปอด หรือผู้ที่มีอาการโรคหวัด สำหรับผู้ใหญ่นั้นแนะนำให้รับประทานยาฟ้าทะลายที่มีสารเอนโตรกราโฟไลน์ Andrographolide 60 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งรับประทานวันละ 3 ครั้ง ติดต่อกันไม่เกิน 5 วัน
ฝุ่น PM2.5 ที่พบเกือบทุกที่ในประเทศไทย โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ การป้องกันไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากอนามัย หรือลดการทำกิจกรรมนอกบ้าน ก็เป็นวิธีการที่ช่วยปกป้องร่างกายวหรือปอดของเรา แต่ว่าเราคงจะหลีกเลี่ยงไปเลยคงไม่ได้ ดังนั้นการส่งเสริมและบำรุงปอดให้มีสุขภาพที่ดีนั้นก็เป็นอีกทางหนึ่งในการในการรักษาสุขภาพของเราให้ห่างโรคที่สมุนไพรไทยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการฟื้นฟูสภาพปอดและสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัยในระยะเวลานานๆ อย่างไรก็ตามในการเลือกรับประทานสมุนไพรอะไรนั้นต้องปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนเพื่อความปลอดภัย
หากสนใจวัตถุดิบสมุนไพรและรายละเอียดสมุนไพรบำรุงปอด สร้างภูมิคุมกัน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้นะคะ เรายินดีเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทุกความสำเร็จของคุณ