ภูมิคุ้มกัน มีการกล่าวถึงมากจนเป็นที่คุ้นหูมากในสมัยที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มตั้งแต่การพูดถึงการกระตุ้นให้ทุกคนมี ภูมิคุ้มกัน ต้านเชื้อโควิด-19 ด้วยวัคซีน รวมถึงการมีกระแสการดูแลร่างกายให้มีความแข็งแรงเพื่อให้เราอยู่ร่วมกันกับโรคไวรัสชนิดนี้ให้ได้ ดังนั้นจึงเป็นแรงผลักดันให้เกิดกระแสการใช้ ยาสมุนไพร อาหารเสริมจากสมุนไพร เพื่อสร้างให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิคุ้มกัน เนื่องจากมีแนวคิดว่าการใช้สารที่มาจากธรรมชาตินั้นมีความปลอดภัยในการใช้ ในระยะยนาน
เราทำความคุ้นเคยกับวคำว่า ภูมิคุ้มกัน กันค่ะ ภูมิคุ้มกัน หรือ ภูมิต้านทาน ถ้าจะเรียกให้ถูกตามศัพท์ภาษาอังกฤษก็คือ “อิมมูน” Immune เป็นระบบป้องภัยของร่างกายเรานั่นเอง จินตนาการคือก็คล้ายกับทหารที่มีในร่างกายของเรา ทำหน้าที่ดักจับป้องกันเชื้อโรค หรือสิ่งแปลกปลอมเมื่อเราสัมผัส หรือเมื่อเชื้อโรค หลุดเข้าสู่ร่างกาย ทีมีกระบวนการที่สลับซับซ้อนและมหรรศจรรย์
ภูมิคุ้มกันในร่างกายเราเกิดขึ้นได้ มี 2 แบบ ด้วยกัน
- ภูมิคุ้มกันที่ได้รับมา Passive Immunity เป็นภูมิคุ้มกันที่มักพบในเด็กแรกเกิด ภูมิคุ้นกันชนิดนี้ได้มาจากคุณแม่ตั้งแต่ที่เราเกิด Innate Immunity ซึ่งคอยดักจับเชื้อโรคจากลำคอ จมูก ไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย จะอยู่ในช่วงแรกหลังจากเท่านั้น และลดลงตามธรรมชาติเพื่อปกป้องทารกจากเชื้อต่างๆในช่วงแรกหลังจากคลอด
- ภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการสร้างขึ้นเองของร่างกาย Active Immunity จะแบ่งย่อยได้ 2 ชนิดตามกลไกการเกิดขึ้น
- ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นตามกลไกธรรมชาติ Natural Immunity ซึ่งเป็นกระบวนการ ที่สร้างภูมิคุ้มกันเมื่อร่างกายมีเชื้อโรคเข้าสู่ร่างการ แล้วระบบภูมิคุ้มกันที่มีอยู่ก็ต่อสู้กับเจ้าเชื้อโรค ในขณะเดียวกันก็สร้างภูมิคุ้มกันเฉพาะต่อเชื้อโรคขึ้นมาในร่างกายของเราและอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ดังนั้นเมื่อเมื่อร่างกายของเราได้พบกับเจ้าเชื้อโรคตัวนี้อีกครั้ง เจ้าเชื้อนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรกับร่างกายเราได้อีก หรืออย่างน้อยก็ลดความรุนแรงจากการรับเชื้อโรคนี้มา
- ภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากแอนติเจน Immunization คือภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการน้ำเชื้อโรคที่อ่อนแอลงเข้าสู่ร่างกายเพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเฉพาะสำหรับเชื้อโรคนั้นๆ โดยเชื้อที่อ่อนแอนั้นไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ เช่นการฉีดวัคซีนเข้าสู่ร่างกาย
จะเห็นว่าภูมิคุ้มกันมีประโยชน์ต่อร่างกาย และปกป้องเราจากเชื้อโรค สำหรับโควิด-19 เป็นเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 (COVID -19) หากเราสัมผัสกับเชื้อโรคร่างกายก็จะมีกระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่มีความจำเฉพาะต่อเชื้อไวรัสชนิดนั้นขึ้นมา แต่หากร่างกายเราภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ร่างกายอ่อนแอ ความรุนแรงของโรคก็จะมากขึ้น
ลักษณะของเชื้อโควิด-19 เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่กระจายไปยังส่วนต่างๆของร่างกายได้อย่างดี โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ และการแสดงอาการหลังการติดเชื้อในแต่ละคนก็แตกต่างกันไปตามความเข้มแข็งของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายของแต่ละคน อายุ โรคประจำตัว โดยอาการแต่มีตั้งแต่ ไม่แสดงอาการ หรือในบางคนอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ยิ่งกว่านั้น ก็มีการกล่าวถึงในบางคนที่ได้รับเชื้อก็มีอาการเรื้องรังหลังจากรับเชื้อ ที่เราเรียกว่าอาการ Long Covid
ดังนั้นกระแสความสนใจในป้องกันการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 หรือ การลดการแสดงอาการหากได้รับเชื้อ หรือผลกระทบจากการติดเชื้อไปแล้วนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และเป็นดแรงผลักดันให้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการให้ความสำคัญเรื่องอาหาร การพักผ่อน การออกกำลังกาย โดยหวังให้ร่างการแข็งแรง และสร้างภูมิร่างกายที่แข็งแรงต่อสู้กับเชื้อโรคนั่นเอง
ก่อนที่จะมีโควิด มูลค่าการตลาดของการบริโภคสมุนไพร มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีมูลค่าราว 5.26 ล้าน US ในปี 2017 และคาดว่าจะมีมูลค่าการเติบโตมากกว่า 6.2% โดยปัจจัยมาจากการให้ความสนใจในการใช้สินค้าที่มาจากธรรมชาติ การให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพก่อนที่ร่างกายจะเจ็บไข้ได้ป่วย จึงทำให้เกิดการใช้จ่ายเพื่อการดูแลสุขภาพ และการเป็นอยู่ที่ดีมากขึ้น อีกทั้งเรากำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ การป้องกัน หรือการรักษาภาวะโรคเรื้อรัง จึงเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้คนหันมาสนใจการใช้สมุนไพรมากขึ้น
ในช่วง มีการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โคโรน่าไวรัส หรือโควิด-19 เกิดความต้องการในการใช้สมุนไพรมาใช้ในการป้องกัน การรักษา การฟื้นฟูร่างกายกันอย่างมาก จนกล่าวได้ว่า สมุนไพรเป็นกระแสของโลกในการนำมาเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน จะเห็นได้ใกล้ตัวในประเทศไทย ได้นำฟ้าทะลายโจร กระชายขาว ขมิ้นชัน หรือตำรับยาอายุรเวช เช่น ตรีผลา มาสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
โชคดีอย่างมากที่ประเทศไทยมีสมุนไพร และตำรับยาสมุนไพรหลายชนิดที่ นำมาใช้ในการสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายมายาวนาน บางชนิดได้มีการศึกษา และงานวิจัยรับรองแล้ว และอีกหลายชนิดที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการทำวิจัยเพื่อสนับสนุนให้สมุนไพรไทยก้าวสู่ตลาดโลก วันนี้แอดมินได้นำสมุนไพรที่มีงานวิจัยรับรองแล้ว และเป็นกระแสทำให้เกิดการใช้สมุนไพรอย่างมากเพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกัน และรักษา เพื่อเป็นแนวทางหากใครที่สนใจในการนำสมุนไพรมาใช้ หรือสนใจจะส่งออกสมุนไพร สกัดสมุนไพร เรามาดูกันเลยค่ะ
ฟ้าทะลายโจร
ชื่อสามัญ Kariyat
ชื่อวิทยาศาสตร์ Andrographis paniculata (Burm f.) จัดในวงศ์ Acanthaceae
ฟ้าทะลายโจรเป็นพืชลุ้มลุก สูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร ลำต้นตั้งตรง ใบเดี่ยว สีเขียวเข้ม เป็นมัน มีดอกสีขาว ส่วนที่นำมาใช้สร้างภูมิคุ้มกัน ได้แก่ ส่วนของใบ หรือทั้งต้น ซึ่งมีสารออกฤทธิ์สำคัญด้วยกัน 3 กลุ่มใหญ่ คือ สารเอนโครกราโฟไลด์ Andrographolide ซึ่งเป็นสาระสำคัญตัวเอกเลยค่ะ ในการสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย และยับยั้งการเพิ่มจำนวนไวรัส Virostatic จึงทำให้เชื้อไวรัสอ่อนแอลง และยังมีสารนีโอเอนโดรกราโฟไลด์ Neo- Andrographolide และสาร 14 ดีอ๊อกซี่เอนโดรกราโฟไลด์14-Andrographolide
ขมิ้นชัน
ชื่อสามัญ Turmeric
ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma longa L. จัดอยู่ในวงศ์ขิง Zingiberaceae
ขมิ้น เป็นพืชล้มลุกที่จัดอยู่ในตระกูลขิง มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เนื้อในของเหง้าจะเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีตั้งแต่สีเหลืองเข้มจนถึงสีแสดจัด ส่วนที่นำมาใช้ในการสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย คือส่วนของเหง้าใต้ดิน
ขมิ้นชันมีสารสำคัญ ที่เรียกว่า สารเคอร์คูมินอยด์ Curcuminoid ที่ประกอบด้วยสาร เคอร์คูมิน Curcumin , เดเมทอกซีเคอร์คุมิน Demethoxy curcumin และ บิสเดเมททอกซีเคอร์คูมิน Bis demethoxcy curcumin ที่ออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ เสริมสร้าง ภูมิคุ้มกัน ร่างกาย ปรับสมดล ต้านไวรัส ต้านการอักเสบภายในเซลล์ ลดไข้ ซึ่งมีงานวิจัยหลายชิ้นสนับสนุนการนำขมิ้นมา จึงจัดเป็นสมุนไพรยอดนิยมระดับโลก
กระชาย หรือบางครั้งเราก็เรียกว่า กระชายขาว หรือ กระชายเหลือง
ชื่อสามัญ Fingerroot , Chinese ginger , Chinese keys, Galingale
ชื่อวิทยาศาสตร์ Boesenbergai rotunda (L.) Masnsf. จัดเป็นพืชในวงศ์เดียวกับขิง Zingiberaceae
กระชายเป็นพืชล้มลุก ส่วนที่นิยมนำมาใช้ทำอาหาร หรือนำมาใช้เพื่อเสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย และเป็นยาอายุวัฒนะ เป็นส่วนที่เป็นเหง้าหรือรากใต้ดิน เหง้าใต้ดินมีรสชาติเผ็ดร้อน รสขม ซ่า สารสำคัญที่พบในกระชาย มีสารพิโนสโตรบิน Pinostrobin และสารแพนดูเรทินเอ Panduratin A ที่มีฤทธิ์ต้านโควิด-19 มีการศึกษาของมหาวิทยาลัยหมิดลเกี่ยวกับกระชายที่มีกลไกต้านเชื้อโควิด-19 ยับยั้งการเพิ่มจำนวนเซลล์ไวรัส
ตรีผลา
ตรีผลา เป็นตำรับยาอายุรเวช ที่ประกอบได้ด้วยสมุนไพร 3 ชนิด คือ สมอพิเภก สมอไทย และมะขามป้อม รวมกันเป็นสมุนไพร มีฤทธิ์แก้ไอ บรรเทาอาการไอ เจ็บคอ ขับเสมหะ และสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย
เนื่องจากเชื้อโควิด-19 เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายโรคไข้หวัด คือ ไอ เจ็บคอ สีเสมหะ หายใจไม่สะดวก ตำรับยาตรีผลานั้นจะช่วยแก้อาการเหล่านี้ และยังเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ปรับสมดุลธาตุ และสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปรับระบบขับถ่าย อาหารไม่ย่อย จึงมีการนำสมุนไพรตำรับนี้มาใช้ป้องกัน หรือรักษาผู้ป่าวยที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่อาการไม่รุ่นแรง
สมอพิเภก SAMO PHI-PHEK
ชื่อสามัญ Beleric Myrobalan
ชื่อวิทยาศาสตร์ Terminalia bellirica (Gaetn.) Roxb. จัดอยู่ในวงศ์ Combretaceae
ส่วนที่ใช้ทำยา คือผลอ่อนและผลแก่ มีลักษณะกลมๆ รีๆ มีเหลี่ยม 5 เหลี่ยม ผิวนอกมีขนปกคลุมสีน้ำตาลหนาแน่น
สมอภิเภค มีสารสำคัญ และสารออกฤทธิ์ กรดเชบูลิก Chebulagic acid กรดแอลกาลิค Ellagic acid และกรดแกลลิก Gallic acid สาร Beta- sitosterol สาร Sitosterol ที่ช่วยแก้อาการไอ ขับเสมหะ ลายลายเสมหะ ในขณะที่ร่ายได้รับเชื้อโรค และยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายเนื่องจากสารเหล่านี้ต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้เซลล์แข็งแรง
สมอไทย SAMO THAI
ชื่อสามัญ Chebulic Myrobalans หรือ Myrolan Wood
ชื่อวิทยาศาสตร์ Terminalia Chubula Retz. อยู่ในวงศ์ Combretaceae
สมอไทย เป็นไม้ยืนต้น เปลือกต้นขรุระสีน้ำตาล สูง 20-30 เมตร เป็นไม้ขนาดกลาง ถึงขนาดใหญ่ผลัดใบ ส่วนที่เรานำมาใช้ทางสมุนไพร คือส่วนของผล จะมีลักษณะเป็นทรงลีรูปไข่ หรือรูปกระสวย ขนาด 3-4 เซนติเมตร ผลอาจมีหรือไม่มีพลูตามสัน ตามความยาวของผล ผลแก่สดจะมีสีเขียว เหลือง แต่เมื่อแห้งจะมีสีดำน้ำตาลเข้ม
ผลสมอไทย มีรสเปรี้ยวฝาด ขมชุ่ม ผลอ่อน เป็นยาระบาย ผลแก่ มีฤทธิ์ฝาดสมาน สมานลำไส้
ใช้เป็นยาละลายเสมหะ ขับเสมหะ ทำให้ปอดชุ่มชื่น แก้หลอดลมอักเสบ แก้เสียงแหบแห้ง แก้ไอ แก้ท้องผูก
สาระสำคัญในสมอไทย เป็นสารกลุ่มแทนนิน Tannins ได้แก่ กรดเชบูลินิก Chebulinic acid กรดเชบูลิก Chebulic acid และกรดแกลลิก Gallic acid ซึ่งมีฤทธ์คล้ายกับสมอภิเภก ช่วยสร้าง ภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายเนื่องจากสารเหล่านี้ต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้เซลล์แข็งแรง
มะขามป้อม
ชื่อสามัญ Indian gooseberry
ชื่อวิทยาศาสตร์ Emuc myrabolan, Malacca tree จัดอยู่ในวงศ์ Phyllanthus L.
มะขามป้อม เป็นพืชตระกูลไม้ยืนต้นขนาดกลาง ลำต้นไม่ใหญ่และสูงมาก โตเต็มที่จะมีขนาด 8-20 เมตร เท่านั้น มีลำต้นขนาดกะทัดรัด เปลือกสีน้ำตามอ่อน เนื้อไม้สีแดงอมน้ำตาล
ลูกหรือผลของมะขามป้อมขนาดเล็กเป็นทรงกลมเส้นผ่านศูนย์หลางประมาณ 1-2 เซนติเมตร ออกผลเป็นพวง 2-4 ลูกติดกัน ผลของมะข้ามป้อมมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กล่าวคือเป็นผลสีเขียวค่อนข้างใส มีริ้ว ๆ จากหัวไปท้าย ด้านในมีเมล็ด 6 เมล็ด/1 เนื้อภายในของมะขามป้อมมีรสอมเปรี้ยว อมฝาดและขมที่ปลายลิ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นที่นิยมนำมาใช้ทางยา ในการแก้กระหาย แก้ไอ ขับเสมหะ ทำให้คอชุ่มชื่น แก้ไข้ตัวร้อน แก้เจ็บคอ แก้เลือดออกตามไรฟัน เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย โดยในมะขามป้อม จะมีสารออกฤทธิ์ เอสตรากาลิน Astragalin , กรดกาลลิค Gallic acod , กรดดีกาลลิค Digallic acid , กรดเชบูลลากิค Chebulagic acid, กรดเชบูลินิค Chebulinic acid และวิตามินซี Vitamin C สูง และเป็นวิตามินซีที่มีความประสิทธิภาพ มะขามป้อมนิยมนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในไทย และต่างประเทศ มีผลงานวิจัยมากมายรับรองถึงฤทธิ์ของมะขามป้อมในการใช้ทำยา อาหาร หรืออาหารเสริม
จะเห็นว่ามูลค่าการตลาดโลกของการใช้สมุนไพรที่มีอัตราการเติบโตอยู่แล้วนั้นที่มาจากการให้ความสนใจในการใช้สินค้าที่มาจากธรรมชาติ การให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพก่อนที่ร่างกายจะเจ็บไข้ได้ป่วย จึงทำให้เกิดการใช้จ่ายเพื่อการดูแลสุขภาพ พอมามีโรคโควิด-19 ยิ่งแรงผลักดันให้เกิดกระแสการใช้สมุนไพรมากขึ้น โดยหวังผลให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เพื่อลดอาการและความรุนแรง หรือแม้แต่ใช้ในการฟื้นฟูร่างกาย นอกจากนั้นการใช้สมุนไพรในการป้องกันนั้นมีแนวคิดว่าการใช้สารที่มาจากธรรมชาตินั้นมีความปลอดภัยในการใช้ ในระยะยนาน จนกล่าวได้ว่าสมุนไพรเป็นกระแสของโลกในการนำมาเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ไม่ว่าจะเป็น ฟ้าทะลายโจร กระชายขาว ขมิ้นชัน หรือตำรับยาอายุรเวช เช่น ตรีผลา มาสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย โดยสมุนไพรเหล่านี้มีงานวิจัยออกมารองรับ จึงเป็นที่นิยมใช้ทั้งใน และต่างประเทศ
ดังนั้นหากมีความสนใจหาสมุนไพร ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน กระชายขาว มะขามป้อม สมอไทย สมอภิเภก เพื่อนำไปใช้ในการเสริมภูมิคุ้มกัน สามารถติดติดเราเพื่อขอคำแนะนำทั้งการแชท หรือโทร เป็นเพื่อนกับเราได้นะคะ